RGFบริษัทจัดหางานระดับโลกสัญชาติญี่ปุ่น

เคล็ดลับการเตรียมความพร้อมก่อนหางานในกทม | RGF HR Agent Thailand

2020/03/03

ไม่ว่าคุณจะเป็นเด็กจบใหม่ จบเก่า หรือจบมานานแล้ว เมื่อถึงเวลาที่ต้องเริ่มงานใหม่  ใคร ๆ ก็ตื่นเต้นด้วยกันทั้งนั้น การสมัครหรือสัมภาษณ์งานก็เช่นกัน บางคนสนใจอยากหางานในกทม. แต่ก็อาจยังจะงง ๆ ว่าต้องเริ่มต้นที่ตรงไหนยังไงดีน้า

ย่านใจกลางเมืองกรุงเทพ

หยุดความกังวลของคุณไว้เท่านี้ วันนี้เรามีคำแนะนำดี ๆ มานำเสนอ เพื่อพลิกวิกฤตเป็นโอกาส เปลี่ยนความตื่นเต้นให้เป็นแรงผลักดัน หาข้อมูลเตรียมพร้อม เพื่อพัฒนาศักยภาพ เตรียมตัวให้พร้อมหางาน ที่ไม่ว่างานไหน ๆ ก็พร้อมรับมือได้ทุกสถานการณ์อย่างแน่นอน

เตรียมตัวยังไงให้พร้อมหางานในกรุงเทพ

คนส่วนใหญ่อาจจะคิดว่าเพียงแค่มีความสามารถส่วนตัว หรือความสามารถพิเศษเฉพาะในสายงานของตัวเองก็อาจจะเพียงพอแล้ว  แต่ในความเป็นจริงการเตรียมตัวให้พร้อมก่อนการสมัครงาน หรือการสัมภาษณ์งาน ประสบการณ์และความชำนาญก็ถือว่าเป็นสื่งสำคัญ จะทำยังไงไม่ให้พลาดโอกาสในการสมัครงานดี ๆ ในอนาคต วันนี้เรามีคำตอบมาให้คุณเเล้ว อย่ารอช้าไปเช็คกันเลย!

1.เตรียมตัวให้ดีมีชัยไปกว่าครึ่ง

  • สำรวจความสนใจตัวเองก่อนสมัครงาน ควรรู้ตัวเองว่าชอบหรือไม่ชอบงานลักษณะใด เมื่อทราบแล้วก็จะได้รู้ว่างานใดที่เราต้องการจะสมัครจริง ๆ
  • ประสบการณ์การทำงาน ความสามารถส่วนตัว ความสามารถพิเศษต่าง ๆ ควรเตรียมไปให้ครบ ส่วนนี้ถือเป็นหัวใจสำคัญในการตัดสินใจในการรับเข้าทำงานได้เลย เพราะสามารถวิเคราะห์ได้ว่าเข้ากับตำแหน่งงานไหมนั่นเอง
  • บุคลิก การแต่งตัวมีผลกับงานที่เลือก เตรียมตัวให้ดี เลือกให้เหมาะกับงานที่สนใจจะทำ เนื่องจากการแต่งตัวก็ช่วยเสริมสร้างบุคลิกภาพ และอาจช่วยสร้างความประทับใจแรกได้อีกด้วย
  • ความรู้ด้านคอมพิวเตอร์ ในยุคปัจจุบันถือเป็นสิ่งสำคัญโดยเฉพาะการใช้งาน PC หรือ Software พื้นฐานต่าง ๆ  เช่น Word Excel หรือโปรแกรมพื้นฐานตามสายงานต่าง ๆ เป็นสิ่งจำเป็นควรเตรียมไว้

2.ศึกษาแหล่งข้อมูลการสมัครงาน

  • สามารถเข้าร่วมอีเว้นท์ต่าง ๆ ได้จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งการเปิดสัมมนา หรือการรวมตัวจากบริษัทต่าง ๆ  เพื่อเพิ่มช่องทางในการหางานที่มากขึ้น
  • การสอบถามจากคนใกล้ตัว เพื่อน พี่ น้อง หรือญาติ หากมีตำแหน่งงานที่น่าสนใจ ก็สามารถสอบถามจากบุคคลที่เรารู้จักได้อีกช่องทาง
  • หน่วยงานของรัฐ กรมการจัดหางาน สามารถติดต่อได้โดยตรงที่สำนักจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 – 10 ตามพื้นที่ที่สะดวก ซึ่งแต่ละสำนักงานจะมีการประกาศตำแหน่งงานว่างอยู่เสมอ เพื่อให้ไม่พลาดข่าวสาร ทางเราแนะนำให้ติดตามข่าวสารตามช่องทางต่าง ๆ ที่แต่ละหน่วยประกาศไว้อย่างใกล้ชิด
  • สำนักงานจัดหางานเอกชน ซึ่งสามารถพบเห็นได้มากในปัจจุบัน และแนะนำให้ตรวจสอบข้อมูลก่อนตัดสินใจ ว่าหน่วยงานเราสนใจนั้นเชื่อถือได้หรือไม่ เพื่อป้องกันการได้รับข้อมูลไม่จริงนั่นเอง
  • การประกาศจากสื่อต่าง ๆ เช่นทางโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ โดยเฉพาะ เว็บหางานและสื่อโซเชียล ที่น่าจับตามอง ถือเป็นแหล่งหางานยอดนิยมในปัจจุบัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นช่องทางไหนก็ตาม ต้องมีการตรวจเช็คให้มั่นใจก่อนสมัครกันด้วยนะคะ

3.รู้ข้อมูลหน่วยงานที่สนใจก่อนการสมัครงาน

เมื่อมีความสนใจในงานใดงานหนึ่ง หรือบริษัทใดบริษัทหนึ่ง ผู้สมัครงานควรจะต้องรู้ว่าบริษัทนั้น ๆ ดำเนินธุรกิจประเภทใด เช่น ก่อนการสมัครงานแต่ละครั้ง เราก็ควรจะต้องรู้ว่างานที่จะทำคืออะไร เป็นบริษัทประเภทไหน อุตสาหกรรม บริการ หรือค้าขาย ผลผลิตของบริษัทนั้น ๆ คืออะไร เช่น การเงิน การธนาคาร งานระบบคอมพิวเตอร์ หรือขายเครื่องใช้ไฟฟา และต้องรู้ตำแหน่งงานที่จะสมัครว่ามีลักษณะงานอย่างไร ต้องทำงานสัมพันธ์กับหน่วยไหน อึกทั้งเรื่องสถานที่ตั้งของบริษัทนั้นมีการเดินทางเป็นอย่างไร สวัสดิการเป็นที่พึงพอใจไหม รวมถึงค่าตอบแทนตามตำแหน่งงาน เงินเดือน โบนัส คอมมิชชั่น เรื่องเหล่านี้เราควรที่จะทำความเข้าใจตั้งแต่แรก เพราะถ้าหากมีปัญหาก็จะได้พูดคุยหรือสอบถามได้ แต่ถ้าใช่ก็ลุยได้เลย!

4.เอกสารที่ต้องใช้สมัครงาน

 จดหมายสมัครงาน
  • จดหมายสมัครงาน ไม่ควรจะเขียนเป็นข้อความยืดยาว เเละควรจะเป็นข้อความที่ชัดเจน แสดงถึงจุดประสงค์ที่ต้องการสมัครงาน
  • ประวัติส่วนตัว (RESUME) เป็นการแนะนำตัวโดยสรุปให้เป็นที่รู้จัก เน้นแต่ส่วนที่เกี่ยวข้องหรือข้อมูลที่อาจเป็นประโยชน์ในการสมัครงาน
  • รูปถ่าย ไม่ว่าจะขนาด 1 นิ้ว หรือ 2 นิ้ว เพื่อให้ไม่พลาด ควรเตรียมไปให้พร้อมทุกขนาด เพราะแต่ละบริษัทกำหนดขนาดรูปที่ไม่เหมือนกัน
  • ใบผลการศึกษาหรือใบเกรดแสดงผลการเรียน เอกสารนี้เป็นเอกสารสำคัญ เพื่อแสดงให้รู้ว่าเรียนจบมาทางด้านไหน เรียนวิชาอะไรมา ไม่ว่าจะเพิ่งจบใหม่ หรือคนที่เคยผ่านงานมาแล้ว เอกสารนี้ก็ยังเป็นเอกสารจำเป็น ดังนั้นควรเก็บต้นฉบับให้ดีป้องกันไม่ให้สูญหาย เพราะในอนาคตหากมีการสมัครงานเอกสารนี้ก็ยังต้องใช้ประกอบการยื่นใบสมัครอีกด้วย
  • หนังสือรับรองการฝึกงาน การผ่านงานในอดีต หากเคยมีประสบการณ์ผ่านการฝึกงาน รวมถึงประสบการณ์ทำงานก็ควรจะใส่ไปด้วย เพราะอาจเป็นประโยชน์สำหรับการสมัครงานก็เป็นได้
  • สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน ควรเตรียมไปเผื่อ 2 – 3 ฉบับ หากต้องใช้เพิ่มจะได้หยิบมาใช้ได้ทันที โดยไม่ต้องไปขอถ่ายสำเนา และแสดงความพร้อมในการทำงานของเรา
  • เอกสารอื่น ๆ ถ้ามี อย่างเช่น สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ - นามสกุล ,สำเนาใบผ่านการเกณฑ์ทหาร(ถ้ามี),สำเนาใบขับขี่ (กรณีสมัครงานที่เกี่ยวกับการขับรถหรือที่ทางบริษัทกำหนด) ก็ควรเตรียมมาเช่นกัน

       แนะนำว่าควรเชคให้แน่ใจทุกครั้งก่อนการสมัครงานว่าทางบริษัทต้องการเอกสารอะไร เตรียมไปเผื่อเพื่อป้องกันการตกหล่น และอย่าลืมเซ็นสำเนาถูกต้องให้เรียบร้อย เพื่อความสะดวกและรวดเร็วหน้างาน

สำรวจเส้นทาง กทม. ก่อนการเดินทาง

ก่อนวันสัมภาษณ์ควรตรวจสอบสถานที่ให้แน่ใจ ศึกษาเส้นทางและวิธีการเดินทาง เผื่อเวลา ทางที่ดีในวันสัมภาษณ์ควรไปก่อนเวลาประมาณ 15 - 30 นาที เพื่อไปเตรียมความพร้อมก่อนเข้าสัมภาษณ์ แต่หากมีเหตุสุดวิสัยเกิดขึ้น ทำให้ไม่สามารถไปได้ทันเวลาหรือมีเหตุฉุกเฉินแล้วละก็ ควรรีบโทรแจ้งทางบริษัทที่พร้อมทั้งอธิบายเหตุผล และทำการนัดหมายกันอีกรอบนั่นเอง

เตรียมการ - รับมือ บทสัมภาษณ์เพื่อให้ได้งานในกทม.

จากประสบการณ์ที่ผ่านมาของคนส่วนใหญ่นั้นคงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าคำถามที่เจอ ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับตัวคุณ เช่น การให้แนะนำตัว เล่าประวัติการทำงาน งานอดิเรก ความสามารถในการจัดการงาน รวมถึงความเข้าใจในตำแหน่ง และองค์กรก่อนตัดสินใจสมัครงาน สิ่งเหล่านี้คุณควรฝึกซ้อม ค้นหาข้อมูลล่วงหน้ามาก่อน เพื่อพร้อมรับมือกับการสัมภาษณ์งาน เท่านี้งานดี ๆ ที่คุณต้องการก็จะไม่ไกลเกินฝัน เตรียมตัวนับหนึ่งเริ่มงานใหม่กันได้เลย!